วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ประวัติของ Zlatan Ibrahimovic


ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับมัลโม่ในบ้านเกิด ก่อนที่จะย้ายไปสร้างชื่อกับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมที่ฮอลแลนด์ในปี 2001 ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขา ทำให้ยูเวนตุสทุ่มเงิน 16 ล้านยูโร คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2004 ก่อนที่ทีมม้าลายแห่งตูรินจะถูกปรับตกชั้นไปเซเรีย บีในปี 2006 ด้วยข้อหาพัวพันกับวงการพนัน ทำให้เอเยนต์ของอิบราฮิโมวิชเลือกที่จะให้ศูนย์หน้าชาวสวีเดนย้ายไปเล่นให้กับทีมอื่นแทน ซึ่งทีมนั้นก็คืออินเตอร์ มิลาน


ตลอดระยะเวลา 3 ปีกับทีมงูใหญ่ ถือว่าอิบราฮิโมวิชทำผลงานได้ดี โดยลงสนามไป 88 เกม ยิงได้ 57 ประตู ทำให้บาร์เซโลน่าดึงตัวเขาไปล่าตาข่าย ทว่าสไตล์การเล่นของเขาไม่เข้ากับระบบทีมที่คัมป์ นู ส่งผลถึงผลงานในสนามที่ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนที่ผ่านมา จากนั้นเขาจึงถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับเอซี มิลาน ก่อนที่จะเซ็นสัญญาแบบถาวรในปี 2011

ที่ผ่านมานั้น อิบราฮิโมวิชสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดภายในประเทศกับทุกสโมสรที่ลงเล่น ยกเว้นแค่มัลโม่ทีมเดียวเท่านั้น หลังจากที่พาทีมปีศาจแดงดำคว้าสคูเด็ตโต้ เขาก็ย้ายไปเล่นที่ฝรั่งเศสกับปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่นั่น เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะฤดูกาลสุดท้ายที่เขายิงประตูรวมทุกรายการไปถึง 50 ลูก ก่อนที่สัญญาของเขากับสโมสรจะหมดลง ด้วยผลงานคว้าแชมป์ลีก เอิงได้ทั้ง 4 ฤดูกาลที่ลงเล่น


วันที่ 1 กรกฏาคม หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ทีมชาติสวีเดนในยูโร 2016 พร้อมประกาศอำลาทีมชาติ อิบราฮิโมวิชก็ได้เปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเซ็นสัญญาระยะสั้น 1 ปี ซึ่งเขาก็จะได้โอกาสร่วมงานกับอดีตเจ้านายที่อินเตอร์ มิลานอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ อีกครั้ง


วันเกิด 3 ตุลาคม 1981
สถานที่เกิด สวีเดน
น้ำหนัก - ส่วนสูง -
อายุ 36 ปี
ทีมชาติ สวีเดน
เข้าร่วมทีม 1 กรกฎาคม 2016

รายการ                                ลงสนาม สำรอง ประตู ใบเหลือง ใบแดง
ฟุตบอลลีก, พรีเมียร์ ลีก               23    1           15               7 0
เอฟเอ คัพ                               1    1           1               0 0
ลีก คัพ                                       3    0           4               0 0
ยูโรเปี้ยน / อื่นๆ                       6    0           5               0 0
รวม                                              33    2           25               7 0




วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กินพาสต้าได้ อย่ากลัวอ้วน



    ไม่ต้องรู้สึกผิดถ้าอยากกินพาสต้าหรือสปาเก็ตตี้ เพราะข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ ผู้ที่กินพาสต้าวันละ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ไม่ทำให้อ้วน กลับกันยังทำให้ผอมลงกว่าเดิมด้วย!

    นักวิจัยของโรงพยาบาลเซ็นต์ไมเคิลได้ทำการวิเคราะห์การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมจำนวน 30 การทดลอง ซึ่งการทดลองทั้งหมดมีการร้องขอให้คนจำนวน 2,500 คนทดแทนคาร์โบไฮเดรตที่ใช้ลดความอ้วนด้วยพาสต้า

   นักวิจัยพบว่า การกินพาสต้าสัปดาห์ละ 3 ครั้งไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และได้ชี้ถึงความเข้าใจผิดของคำว่าคาร์โบไฮเดรตที่ดีและเลวตาม “ดัชนีไกลซีมิก” (GI-Glycemic Index) ดัชนีวัดค่าคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นการคำนวณว่าน้ำตาลในเลือดจะสูงและเร็วเพียงใดหลังจากที่รับประทานอาหารแต่ละชนิดเข้าไป โดยอาหารที่มีดัชนีไกลซีมิกสูงจะมีคาร์โบไฮเดรตสูง (น้ำตาลและแป้งสูง) เช่น คัพเค้กหรือขนมปังขาว และส่งผลให้น้ำตาลกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว


   เมื่อร่างกายมีปริมาณน้ำตาลมากกว่าปกติ มากจนอินซูลินไม่สามารถดูดซึมได้อีกต่อไป อินซูลินจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเอนไซม์ชนิดหนึ่งขึ้นมาแปรสภาพกลูโคสให้เป็นไกลโคเจนเข้าไปเก็บสะสมที่ตับและกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหากยังเก็บได้ไม่หมด กลูโคสจะถูกแปรสภาพกลายเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ในร่างกายแทน

   สำหรับพาสต้านั้นถือเป็นอาหารที่มีดัชนีไกลซีมิกต่ำเมื่อเทียบกับคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ ดังนั้นสาวกพาสต้ามีเฮเพราะสามารถกินมันได้โดยไม่ต้องกลัวหุ่นเสียทรง แต่นั่นก็ใช่ว่าการกินคาโบนาร่าทุกวันจะไม่อ้วน หรือใช่ว่ากินครั้งละมากๆ น้ำหนั

   จะไม่ขึ้น ถ้าอยากยังรักษาหุ่นสวยแต่อยากเอนจอยกับคาร์โบไฮเดรต พาสต้าและสปาเก็ตตี้เป็นตัวเลือกที่ดีแต่ก็อย่ากินมากเกินไป